วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คอมมิวนิสต์ในประเทศไทย


พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) (อังกฤษCommunist Party of Thailand - CPT) เป็นพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย แม้ตามกฎหมายไทย พคท.จะยังไม่ใช่พรรคการเมืองจดทะเบียน เนื่องจากไม่เคยจดทะเบียนจัดตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติต้องถือว่าเป็นพรรคการเมืองจริง มีอุดมการณ์การเมืองชัดเจนตั้งแต่ก่อตั้ง ดำเนินแนวทางตาม ลัทธิมาร์กซ์ลัทธิเลนิน และความคิดเหมาเจ๋อตง นอกจากนั้น ในอดีต ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไทยที่สังกัด พคท. อีกด้วย ได้แก่ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในปัจจุบัน ถึงแม้จะยังไม่มีการประกาศยุบพรรค แต่ก็มิได้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่อย่างใด ช่วงปี พ.ศ. 2547 มีกระแสข่าวจากหลายสื่อ[ต้องการอ้างอิง]ว่า ทางพรรคอาจจะมีการจัดการประชุมสมัชชา พคท. อีกครั้ง (เป็นการประชุมครั้งที่ 5) แต่ก็ไม่เกิดขึ้น

เนื้อหา

  [ซ่อน

[แก้]ประวัติ

พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เดิมเรียก พรรคคอมมิวนิสต์สยาม เริ่มก่อตั้งโดยโฮจิมินห์ ชาวเวียดนาม ใช้นามแฝงว่า สหายซุง โดยประชุมครั้งแรกแบบลับๆ ที่ โรงแรมตุ้นกี่ หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2473 โดยแต่งตั้งหลี หรือ โงจิ๊งก๊วก เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก และมีตัวแทนสองคนคือ ตัง หรือ เจิ่นวันเจิ๋น และ เหล่าโหงว หรือ อู่จื้อจือ[1] จนก่อตั้งเป็นรูปร่างเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2485 หลังการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพมหานคร[2] โดยมีสมาชิกก่อตั้ง 57 คน พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเป็นพรรคแนวอุดมการณ์ ยึดมั่นในลัทธิมาร์กซ เลนินและความคิด"เหมา" โดยมีความมุ่งหมายเพื่อสร้างความเสมอภาคทางชนชั้นชี้นำสังคมโดยพรรคคอมมิวนิสต์ และต่อสู้เอาชนะระบบทุนนิยมด้วยวิธี "ป่าล้อมเมือง"

[แก้]วันเสียงปืนแตก

ดูบทความหลักที่ วันเสียงปืนแตก
วันเสียงปืนแตก คือวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยใช้อาวุธโจมตีกองกำลังของรัฐบาลไทยเป็นครั้งแรก กองกำลังของพรรคได้เรียกตนเองว่า กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เหตุเกิดที่ บ้านนาบัว ตำบลเรณูนคร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ทั้งนี้ได้ประกาศยุทธศาสตร์ "ต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ ใช้ชนบทล้อมเมือง และยึดเมือง" หลังจากวันเสียงปืนแตก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยก็ต่อสู้ด้วยอาวุธกับกองกำลังของรัฐบาลไทยมาตลอด และในยุค "แสวงหา" บรรดานักเรียนนักศึกษาประชาชนร่วมเข้าป่าเพื่อต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2523 รัฐบาลพลเอกเปรม ติณณสูลานนท์ได้ออกคำสั่ง 66/2523 เพื่อนิรโทษกรรมแก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ และปี พ.ศ. 2525 พรรคมีการเจรจากับรัฐบาลไทย เลิกต่อสู้ด้วยอาวุธ ให้มาต่อสู้กันทางรัฐสภาแทน บรรดานักปฏิวัติหลายคนที่ผิดหวังต่อแนวทางของพรรคที่อิงจีนมากเกินไป โดยไม่อาศัยสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย จึงยุติการต่อสู้ หลังจากนั้นพรรคก็อ่อนกำลังลงมาจนกระทั่งสูญสลายไปในที่สุด

[แก้]รายนามเลขาธิการพรรค

รายชื่อเลขาธิการพรรคเรียงตามวาระที่ได้ดำรงตำแหน่ง โดยการเลือกเลขาธิการพรรคนั้น จะกระทำในที่ประชุมสมัชชาพคท.แต่ละครั้ง
  1. พ.ศ. 2485 - พิชิต ณ สุโขทัย (จูโซ่วลิ้มพายัพ อังคะสิงห์) (แหล่งข้อมูลบางแหล่งไม่เห็นด้วยกับข้อมูลนี้ โดยอ้างว่า ในขณะนั้น นายพิชิตไม่ได้เข้าร่วมประชุมสมัชชาด้วย)
  2. พ.ศ. 2495 - ประสงค์ วงศ์วิวัฒน์ (ทรง นพคุณ)
  3. พ.ศ. 2504 - มิตร สมานันท์ (เจริญ วรรณงาม) ชาวอุดรธานี การศึกษาจบสาขาวารสารศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมต่อต้านญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ศึกษาต่อที่สถาบันลัทธิมารก์ซเลนินที่กรุงปักกิ่ง และเสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2521
  4. พ.ศ. 2525 - ประชา ธัญญไพบูลย์ (ธง แจ่มศรี) ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม เข้าร่วมพรรคตั้งแต่อายุ 17 ปี

[แก้]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น